
เมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ไมเคิล ฮูด ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ Voiceflow ได้มีโอกาสใช้เวลากับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับเศรษฐีอันดับท็อปของโลก ด้วยการสนับสนุสจาก Next 36 องค์กรบ่มเพาะสตาร์ทอัพ และธุรกิจหน้าใหม่
แน่นอนว่าไมเคิล ฮูดไม่ได้ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไปเฉยๆ เพราะเขาได้ยิงถามคำถาม (ที่หลายๆ คน รวมถึงผมเองก็อยากรู้) ว่าถ้าวอร์เรนต้องให้คำแนะนำเด็กอายุ 21-22 ที่กำลังจะจบการศึกษา เขาจะแนะนำว่าอย่างไร
วอร์เรนตอบว่า สิ่งที่เขาจะแนะนำคือการลงทุนในตัวเอง โดยหนึ่งวิธีการง่ายๆ ที่สามารถเพิ่มมูลค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ ณ ตอนนี้ได้มากกว่าครึ่ง คือการพัฒนาการสื่อสาร ทั้งการเขียน และการพูด โดยวอร์เรนเปรียบเทียบว่าถ้าเราไม่สามารถสื่อสารได้ มันก็เหมือนกับเราไปขยิบตาให้สาวๆ ในที่มืด ซึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังทิ้งท้ายอีกว่าเราอาจจะฉลาดระดับโลกได้ แต่เราต้องถ่ายทอดให้เป็น และการถ่ายทอดนั้นคือการสื่อสารนั่นเอง
ในช่วงมัธยมและมหาวิทยาลัย วอร์เรนเคยมีปัญหาทางด้านการพูด โดยเขาเคยเล่าว่าเขากลัวการพูดในที่ชุมชมมาก ถึงขนาดอยากจะอาเจียน
แต่หลังจากตัดสินใจไปลงคอร์สการพูดที่ Dale Carnegie เขาก็รู้สึกได้ว่าชีวิตเปลี่ยนไปในทางทีดีขึ้น และเชื่อไหมว่าแทนที่วอร์เรนจะเอาใบปริญญาจากมหาลัยมาแขวนฝาหนังห้อง เขากลับเอาใบประกาศนียบัตรการพูดจาก Dale Carnegie มาแขวนที่ห้องทำงานแทน
ข้อมูลจากนิตรยาสาร Entrepreneur ยังได้กล่าวว่าคณะกรรมการด้านการเขียนแห่งชาติของอเมริกา ได้จัดทำการสำรวจ และพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทที่สำรวจ จ่ายเงินซื้อโปรแกรมพัฒนาการเขียน ให้แก่ลูกจ้างที่ทักษะการเขียนยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ซึ่งตอกย้ำความสำคัญของทักษะการเขียนต่อองค์กร
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่ากว่า 80% ของบริษัททางด้านการเงิน ด้านประกันภัย ด้านอสังหาริมทรัพย์ และด้านอุตสหกรรมบริการ มีการทดสอบทักษะการเขียนของผู้สมัครงานระหว่างการคัดเลือกด้วย
บทความ: Warren Buffett Says Improving This 1 Simple Skill Will Separate You from Everyone Else (and Increase Your Worth) เรียบเรียงโดย: Satawat Keereewan